“โป๊งเหน่ง”ลั่น!ไม่เคยทิ้งแม่ แจงแม่ขอไปอยู่วัดเอง

Written on:October 7, 2014
Comments
Add One

“โป๊งเหน่ง”ยันไม่คิดทอดทิ้ง “แม่อ้อย” หลังรับมาอยู่บ้านด้วย แม่ก็หนีกลับไปวัดอีก ด้านเจ้าอาวาสวัดพระยาสุเรนทร์ ออกปากช่วยดูแลทั้งเมียและลูกผลัดไปเยี่ยมตลอด

วันนี้(7 ต.ค.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวลัษณัฎฐ์ ก้องภพฐิตารีย์ หรือ โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ดาวตลกชื่อดังวัย 50 ปีและนางสมญา ก้องภพฐิตารีย์ ภรรยา อายุ 52 ปี พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ ก้องภพฐิตารีย์ หรือ “เฮงเฮงเชิญยิ้ม”บุตรชาย เมื่อวานนี้ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีมีการเผยแพร่ภาพของยายคนหนึ่งในสภาพล้มป่วยตามเนื้อตัวมีแผลเหวอะหวะ ถูกทอดทิ้งอยู่ที่วัดพระยา สุเรนทร์ ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ ซึ่งมีการระบุว่าหญิงชราคนนี้คือ “แม่อ้อย” มารดาของตลกชื่อดัง ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน เคยมีข่าวว่าโป๊งเหน่งได้ทอดทิ้งแม่มาแล้วครั้งหนึ่ง

โป๊งเหน่งกล่าวว่า “หลังจากที่มีเฟซบุ๊กเอารูปคุณแม่ไปลงขอความช่วยเหลือจริง ๆ ก็อยาขอบคุณ แต่ว่าคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าเรื่องราวเป็นมายังไงก็ส่งไลน์ มาด่าว่าเราและครอบครัว ส่วนนี้ตนเองไม่โกรธเพราะทุกคนมีสิทธิวิจารณ์ เนื่องจากเป็นคนของสังคม ก่อนหน้านี้คงจำกันได้ว่าเคยเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมาแล้ว สำหรับครั้งนี้ที่มันคุกรุ่นขึ้นมาอีกเรื่องมีอยู่ว่าหลังจากที่ไปรับแม่มาอยู่ที่บ้านด้วยกัน แม่กลับมาอยู่ได้ประมาณหนึ่งเดือนกว่า ๆ ก็รับไม่ได้อยู่ไม่ได้นั่นเป็นเพราะแม่เหงาและไม่มีความผูกพันกับครอบครัว เพราะแม่ไม่เคยเลี้ยงลูก ๆ หลังจากนั้นแม่ก็บอกว่าเบื่อแล้วหนีไป ตนเองก็ไปตามที่วัดพระยาสุเรนทร์ ซึ่งเป็นวัดเดิมที่แม่เคยหนีไปอยู่พอไปตามปรากฏว่าแม่ไม่กลับ จึงไปปรึกษาหลวงพ่อโส ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อบอกว่าถ้าแม่อยากอยู่ที่วัดเดี๋ยวหลวงพ่อจัดการดูแลเอง”

ทั้งนี้ โป๊งเหน่งกล่าวต่อว่า “ตอนนั้นได้ถามหลวงพ่อ ว่าจะดีเหรอพาแม่ไปอยู่ที่บ้านพักคนชราบางแคดีกว่าไหม ซึ่งก็ได้ติดต่อไปที่บ้านบางแค 2 เอารถตู้มารับอย่างดี สรุปแม่ไม่ไป ในเมื่อไม่ไปหลวงพ่อจึงบอกว่าไม่ต้องห่วงทางนี้ หลวงพ่อดูแลเองซึ่งก็อยู่ที่วัดมาประมาณ 6-7 เดือน ระหว่างนั้นลูกๆและตนเองก็ผลัดเวียนกันไปเยี่ยมแม่ตลอด
ล่าสุดเมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ภรรยาบอกให้ไปกราบเท้าแม่เอาน้ำล้างเท้ามาล้างหน้าล้างหัว ดังนั้นเรื่องที่บอกว่าเราทิ้งแม่ไม่ไปดูแลนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนรูปในเฟซบุ๊กที่มีคนนำไปลงแล้วดูน่ากลัวมาก บอกว่าแม่เน่าแล้วมดขึ้นเต็มตัวไปหมด แต่เรื่องจริงคือเมื่อสามวันก่อนแม่ล้มในห้องน้ำต้องผ่าเข่า แต่ที่โรงพยาบาลจะไม่ยอมผ่าให้ถ้าไม่มีญาติมาเซ็นชื่อรับรอง ตอนนั้นถ่ายละครอยู่ที่ปากช่อง 3 วัน สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี แต่ว่าได้ทราบเรื่องจากภรรยาแล้วเพราะหลวงพ่อโทรมาบอก ทางหลวงพ่อเลยตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะเห็นว่าสนิทกับจึงบอกว่าให้ผ่าเข่าแม่ไปเลยเกิดอะไรขึ้นหลวงพ่อรับผิดชอบเอง” หลังจากผ่าเสร็จก็ต้องมาพักฟื้นที่วัด ระหว่างนั้นหลวงพ่อก็หาคนมาดูแลแม่ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อชื่อน้องแอน ด้วยความที่แม่แก่แล้ว พอนอน มาก ๆ จึงเกิดแผลกดทับ หลวงพ่อ จึงไปคุยกับเจ้าหน้าที่อนามัยที่อยู่ข้างๆว่าให้ช่วยมาดูแลทำแผลให้หน่อย  ต่อมาแล้วน้องแอน มาบอกว่ามีคนมาถ่ายรูปแม่ โดยคนนั้นกลับแหกแผลผ่าตัดออก พร้อมกับถ่ายรูปแผลที่กำลังเฟะแล้วเอาไปลงเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องที่คนสงสัยว่าทำไมมดขึ้นเยอะจะไม่ขึ้นได้ยังเพราะไม่รู้มีใครที่ไหนเอาน้ำผึ้งผสมกับวาสลีนมาทาเพราะเชื่อว่าแผลจะได้ไม่แข็งพอทาน้ำผึ้งมดก็ย่อมมาขึ้นเป็นธรรมดา พอมดขึ้นก็มาถ่ายรูปแล้วเอาไปลงเฟซบุ๊กอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นหน้าที่ของลูกทำไมไม่ดูแลโป๊งเหน่ง กล่าวว่าไม่ใช่ไม่ดูแลแต่เราต้องทำงานเลี้ยงลูกของตัวเอง 6 คน ซึ่งตนก็ได้ส่งลูกหรือหลานไปดูแลไม่ได้ทิ้งอยากให้ทุกคนเป็นกลางด้วย เพราะตอนนี้ชีวิตบอบช้ำมาก ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกเนรคุณ แม้แต่เดินตลาดยังโดนแม่ค้ารุมต่อว่าขอยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งแม่ ถ้าโกหกขอให้ไปถามหลวงพ่อโสและน้องแอนที่ดูแลแม่ที่วัดคงไม่มีใครไม่หวังดีใส่ร้ายตนแน่นอน เพียงแต่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางขอบคุณและขอโทษที่ทุกคนเข้าใจผิด แต่สงสารภรรยามากที่ถูกกล่าวหาว่าไล่แม่ออกจากบ้านความจริงมันไม่ใช่ เราไม่ได้ทิ้งแม่เดือนหนึ่งก็ไปหาแม่เดือนละ 2 ครั้ง ถ้าไม่ว่างก็ให้ภรรยาหรือลูกไปแทน

 

 
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24

 


   ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ


น่าห่วง!ไทยติดอันดับ49ปท.เสี่ยงฟอกเงิน

สมเด็จพระเทพฯเสด็จฯทรงเป็นปธ.พิธีมังคลาภิเษก

พม่าสำรวจพื้นที่บุกรุกก่อนปล่อยคนไทยกลับปท.

สหพันธ์ปลัดอำเภอฯแห่มอบดอกไม้ให้กำลังม.ล.ปนัดดา

ผู้โดยสารทำใจ! รถเมล์ขึ้นราคาอีก1บาท

กัปตันเรียกนางเอกหนังโป๊เข้าห้องคนขับ

Leave a Comment

Your email address will not be published.