กรมอนามัยแนะกอดสัมผัสทางกาย ถ่ายทอดความรัก กำลังใจ เชื่อช่วยบำบัด-เยียวยาโรคได้
วันนี้ (3ก.พ.58) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เทศกาลความรักวาเลนไทน์ในปีนี้ อยากให้ทุกคนหันมาสร้างความรักให้เกิดขึ้นระหว่างคนในครอบครัว ความรักระหว่างเพื่อน และความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกัน พร้อมทั้งบอกรักด้วยการกอดสัมผัสที่มีความพิเศษอย่างมาก ซึ่งคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กอดวันละครั้งทำให้ห่างไกลจากการพบแพทย์ เช่นเดียวกับ เวอร์จิเนีย ซาเทียร์ นักจิตวิทยาครอบครัวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ชาวแคนาดา
ที่พบว่าคนเราต้องการการกอดวันละ 4 ครั้ง เพื่อการดำรงชีวิต วันละ 8 ครั้ง เพื่อการดำเนินชีวิต และ 12 ครั้ง เพื่อจิตใจและการเจริญเติบโตของร่างกาย และในต่างประเทศมีการวิจัยพบว่าการกอดสามารถเยียวยาผู้ป่วยได้ นอกเหนือจากการรักษาด้วยวิธีการและยาที่มีประสิทธิภาพแล้ว การกอดเป็นการถ่ายทอดความรัก กำลังใจ ความอบอุ่น ความห่วงใยไปสู่ผู้ป่วย เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้นและมีกำลังใจสูงขึ้น
ผลการศึกษาวิจัยของต่างประเทศระบุว่า บุคคลที่ได้รับการกอด หรือกอดผู้อื่น จะทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ทำให้การลำเลียงของออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างทั่วถึงทำให้สดชื่น มีชีวิตชีวา และการกอดยังเป็นการกระตุ้นสัมผัสที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกายและจิตใจ จะช่วยเพิ่มระดับของฮอร์โมนออกซิทอกซิน (oxytocin) ที่ช่วยให้ผู้ถูกกอดรู้สึกอบอุ่นและเป็นสุข ลดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดปามีน (dopamine) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิด ความสุข ความพึงพอใจ ความปีติยินดี และความกระฉับกระเฉงมากขึ้น ก่อให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุขตัวอื่นๆอีก เช่น เอนโดรฟิน (endorphin) และเซโรโทนิน (serotonin) มีส่วนช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ และระบบภูมิต้านทานในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง ทำให้การลำเลียงของออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายดีขึ้น ผลที่ตามมาคือร่างกายจะกระปรี้กระเปร่าและแข็งแรง สุขภาพดีขึ้น ช่วยรักษาภาวะซึมเศร้า ลดความเครียด ในเด็กทารกมีงานวิจัยพบว่าการกอดมีส่วนช่วยกระตุ้นและเพิ่มอีคิวให้กับลูก โดยเฉพาะเด็กทารก การอุ้มกอดขณะให้นมช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสานสัมพันธ์ความรักได้อย่างมาก
ทั้งนี้ การกอดไม่ได้จำกัดขอบเขตเพียงกับเด็กหรือระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ผู้สูงอายุก็ต้องการการโอบกอดด้วยความรักจากคนใกล้ชิด เพราะการกอดในผู้สูงอายุเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมความรู้สึกอ้างว้างภายในจิตใจได้เป็นอย่างดี งานวิจัยจากสหรัฐอเมริการะบุว่า การกอดทำให้ผู้สูงอายุมีภาวะสุขภาพดีขึ้น มีความกระตือ รือร้น และความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ บรรเทาความเจ็บป่วย ซึมเศร้า ความวิตกกังวล ทำให้ผู้สูงอายุต้องการที่จะมีชีวิตอยู่และรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24
Add One