“ชูวิทย์” จี้ สตช.เอาผิด 2 นายตำรวจใหญ่ ชื่อย่อ จ. และ ก. เอี่ยวบ่อน “พงศ์พัฒน์” บอกใบ้แค่ ผบ.ตร.หันหน้าก็เจอแล้ว ผบ.ตร.ท้า “ชูวิทย์” ช่วยระบุชัดๆ นายพล ก. กับ จ.เป็นใคร
วานนี้ (26 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย นำช่อดอกไม้มามอบให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.ต.ประสิทธิ์ชัย ตันประเสริฐ รอง ผบช.สง.ก.ตร.เป็นตัวแทนรับมอบ โดยนายชูวิทย์ได้กล่าวฝากคำชื่นชมไปถึง ผบ.ตร.ว่าผู้นำตำรวจเช่นนี้ตนตามหามานานแล้วที่จะเข้ามาปราบปรามความทุจริตให้หมดไปจากสังคมไทย
จากนั้นได้กางโต๊ะสีแดงพร้อมนำรูปปั้นเทพเจ้ากวนอู ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และความยุติธรรมมาตั้งวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นได้เริ่มแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีดังกล่าว พร้อมนำคลิปวิดีโอที่ถ่ายได้ภายในบ่อนโคลอนเซ่ ย่านถนนพระราม 9 บ่อนขนาดใหญ่ที่เจ้าตัวเคยนำไปเปิดอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการแอบอ้างสถาบันเพื่อหาผลประโยชน์อีกด้วย
นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนเดินทางมาเพื่อเป็นกำลังใจ พล.ต.อ.สมยศ ที่เอาจริงเอาจังต่อการปราบปรามอบายมุขในขณะนี้ แต่ที่ต้องการบอกคือเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ไม่ได้สั้้นเพียงแค่หางอึ่งเท่านี้ ไม่ใช่มีระดับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้วมาที่ดาบตำรวจเลย มันเป็นไปไม่ได้ สั้นเกินไป สังคมต้องถือโอกาสนี้ในการแก้ไขศรัทธาของตำรวจ ถ้าคนระดับ ผบช.ก.มีการทุจริตมากมายขนาดนี้ ต่อไปจะไว้ใจนายตำรวจระดับผู้การ ผู้กำกับ สารวัตรได้อย่างไร เพราะคนระดับ ผบช.ก.ซึ่งมีอำนาจสั่งการทั่วประเทศยังกระทำแบบนี้ ประชาชนจะพึ่งใคร จึงอยากให้ ผบ.ตร.เอาจริงเอาจัง ตนเชื่อมั่นท่าน เรื่องนี้จะจบลงเพียงเท่านี้ไมได้
นายชูวิทย์กล่าวว่า เครือข่ายการกระทำผิดมีมากกว่านี้ ประเด็นสำคัญที่สุดไม่ใช่ธุรกิจน้ำมันเถื่อนหรือกำถั่ว สิ่งเหล่านั้นเล็กน้อย สิ่งที่ใหญ่และมีการเรียกเก็บเงินกันมหาศาลต่อเดือน คือ ธุรกิจบ่อนการพนัน เป็นเรื่องเดียวที่มีการแอบอ้างสถาบันในการหาประโยชน์ เป็นบ่อนระดับยิ่งใหญ่ ตนไม่เชื่อว่าลำพังแค่ ผบช.ก.กับดาบตำรวจจะเปิดบ่อนขนาดใหญ่ได้เอง โดยที่เจ้าของพื้นที่อย่างผู้บัญชาการตำรวจนครบาลไม่รู้เรื่อง ดังนั้นเมื่อเครือข่ายมีมากกว่านี้ ตนจึงได้นำข้อมูลที่ได้เคยตายไปจากใจผมนานแล้วมาสะสางให้จบ เพราะเชื่อมั่นใน ผบ.ตร.คนนี้ที่ยืนยันว่าใหญ่แค่ไหนก็จับ
“ผมแนะนำให้ท่านไม่ต้องมองไปที่ไหนไกล ให้ท่านมองไปทางขวาไปทางซ้ายก็เจอแล้ว คนแก๊งนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อกิ๊ก และโก แต่มีผู้ร่วมขบวนการรายใหญ่อีก 2 คน นอกนั้นเป็นตำรวจระดับที่ต่ำลงมา ก่อนหน้านี้เคยร้องเรียนให้จัดการเรื่องนี้ แต่ผลสรุปสำนวนคดีการสอบสวนบ่อนดังกล่าวตำรวจ ระบุว่าไม่พบผู้กระทำความผิด แต่เมื่อตอนนี้มีผู้ต้องหาแล้ว คือ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก.พร้อมพวก จึงอยากถามว่าความผิดดังกล่าวพยานเป็นใคร อยู่ที่ไหน และบ่อนที่ระบุในข้อกล่าวหาคือบ่อนแห่งใด ต้องชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจน”
นายชูวิทย์กล่าวว่า บ่อนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนมูลค่ามหาศาล แต่ละวันไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน เดือนละกว่า 600 ล้านบาท แล้วบ่อนใหญ่เงินเยอะขนาดนี้ ผบช.ก.กับนายตำรวจอีกไม่กี่นายทำกันเองได้หรือ ต้องมีคนมากกว่านั้น ต้องลากเอาคนผิดมาให้หมด แล้วเงินที่หมุนเวียนอยู่หายไปไหน ส่งให้ใครบ้าง วันนี้ตนได้นำรายชื่อทั้งหมดมาร้องเรียนซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากอยากให้เห็นรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องตามข้อมูลนี้ ที่สำคัญจะพูดว่า ผบช.น.ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะเมื่อเจ้าของพื้นที่ไม่อนุญาตก็ไม่สามารถเปิดได้ ตนจึงขอให้ ผบ.ตร.ดำเนินการทุกคนแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น โดยให้มาเอาข้อมูลจากตนได้ มีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และอยากบอกว่าไม่มีบ่อนไหนที่แอบอ้างสถาบัน มีเพียงบ่อนโคลอนเซ่ ย่านถนนพระราม 9 ซึ่งเปิดช่วงปี 2554 ประมาณ 9 เดือน มีเงินหมุนเวียนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นล้านบาท ก่อนจะย้ายไปเปิดที่รัชดาฯ อีก 23 วัน เปิดวันที่ 1 ส.ค. 57 ปิดวันที่ 24 ส.ค. 57 วันที่ตนอภิปรายในสภา โดยผู้ที่เป็นเจ้าของ คือ 1. เป็นผู้หญิงอยู่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และ 2. เป็นชายชื่อย่อ ถ. ยิ่งใหญ่ในเรื่องการพนัน
“รู้กันดีว่า พล.ต.ต.โกวิทย์เป็นผู้ที่ชอบเล่น เสียทีเป็น 10 ล้าน 20 ล้าน จนถึง 100 ล้าน เล่นทั้งบอล ม้า มวย เล่นทุกอย่าง แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะทำกันแค่นี้ มันเป็นขบวนการ ต้องจัดการทั้งขบวนการ จะเลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้ ตอนนั้นบอกบ่อนนี้บริสุทธิ์ไม่มีการทำผิด แต่ตอนนี้มีแล้วต้องจัดการ ผมจึงขอให้ท่านสอบสวนใหม่ และจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะมีทั้งผู้ร่วมกระทำผิดและผู้สนับสนุนอีกมากมาย รวมทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ซึ่งทำกันเป็นขบวนการ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้เกี่ยวข้องที่เป็นตำรวจนั้นมีตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวว่า ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร ตนอยากพูดแต่พูดไม่ได้ ก็อย่างที่บอกว่าแค่ ผบ.ตร.หันหน้าก็เจอแล้ว แต่อยากถามว่าบ่อนที่นำมาดำเนินคดีต่อ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์และพวกนั้นเป็นบ่อนไหน เคยบอกกับสังคมหรือไม่ ตนเชื่อว่าต้องเป็นบ่อนโคลอนเซ่แน่นอน เพราะใหญ่ที่สุดแล้ว และไม่ได้เปิดโดยคนในเครือข่ายที่เป็นข่าวในขณะนี้เท่านั้นด้วย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าของพื้นที่อย่าง ผบช.น.ในขณะนั้นจะไม่ทราบเรื่อง
ทั้งนี้ ชื่อทั้งหมดอยู่ในรายชื่อที่นำมาให้ ผบ.ตร.แล้ว โดยเฉพาะนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาอีก 2 นาย ถามต่อว่าพอจะบอกชื่อย่อได้หรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวว่า เป็นนายตำรวจที่มียศเท่ากับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อักษรย่อ จ. และ ก.
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : managerOnline
Add One