จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างของนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยของรัฐ 4 แห่ง และเอกชน 4 แห่ง รวมทั้งสิ้น 635 คน แบ่งเป็นภาครัฐ 375 คน และเอกชน 260 คน พบว่านิสิตนักศึกษามีการทำจมูกมากที่สุด รองลงมาเป็นการยิงเลเซอร์เพื่อลบริ้วรอย การทำตา การเสริมหน้าอก และการผ่าตัดแก้ไขรูปหน้า และจากการวิจัยพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศัลยกรรมเสริมความงามได้รับความนิยม เกิดจากความไม่พึ่งพอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
ขณะที่ สมาคมศัลยกรรมเสริมความงามนานาชาติ หรือ ไอเอสเอพีเอส เปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มการทำศัลยกรรมใน 25 ประเทศพบว่า ประเทศที่ทำศัลยกรรมมากที่สุดคือ สหรัฐฯ รองลงมาคือ บราซิล จีน อินเดีย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 20 ของโลกทั้งนี้ธุรกิจศัลยกรรมในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 14,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ร้อยละ 10 ต่อปี
เรียบเรียงข้อมูลโดยจันทร์ไทยดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก : sanook
Add One