สรรพากรแจงเงินบริจาคช่วยเนปาล นำเงิน-มูลค่าทรัพย์สินหักลดหย่อน-หักรายจ่ายเสียภาษีได้
วันนี้ (29เม.ย.58) นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศเนปาล ทำให้ประชาชนชาวเนปาลได้รับความเดือดร้อนสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหว มีการเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อรวบรวมส่งไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนชาวเนปาล
สำหรับการบริจาคช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว ผู้บริจาคสามารถนำเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อน หรือ หักเป็นรายจ่ายในการเสียภาษีได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
1.ผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดาได้เฉพาะการบริจาคเป็นเงิน ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีของหน่วยงานราชการที่เปิดรับบริจาคเป็นการเฉพาะ เช่น บัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 เป็นต้น หรือผ่านบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น สถานีโทรทัศน์ หรือมูลนิธิของสภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ฯลฯ
ผู้บริจาคสามารถนำเงินบริจาคไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีได้ตามจริง (รวมกับเงินบริจาคอื่นๆ ด้วย) แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว โดยใช้หนังสือสำคัญการรับเงินบริจาคที่ส่วนราชการ หรือนิติบุคคลที่เป็นตัวแทน รับบริจาคออกให้
2.ผู้บริจาคที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถ นำเงินหรือทรัพย์สินที่บริจาคไปหักรายจ่ายได้ตามที่จ่ายจริง แต่ ไม่เกิน 2% ของกำไรสุทธิในปีที่บริจาค นอกจากนี้ กรณีการบริจาคทรัพย์สินหรือสินค้าดังกล่าว ถือเป็นเหตุอันสมควรที่ไม่มีภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม
นายประสงค์ กล่าวว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่รับบริจาคเงินหรือทรัพย์สินตามข้อ 1 และข้อ 2 ต้องนำเงินและทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคมาทั้งจำนวนนั้น ไปบริจาคให้แก่หน่วยงานของส่วนราชการไทยเท่านั้น เช่น สำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานราชการ แต่หากตัวแทนรับบริจาคนำไปมอบให้แก่ ผู้ประสบภัยโดยตรง จะไม่ได้รับสิทธิหักลดหย่อน
Add One