ตำรวจประเวศรวบแก๊งวัยรุ่นก่อเหตุชิงทรัพย์-ใช้มีดทำร้ายร่างกายสาว22 ย่านศรีนครินทร์

วันนี้ (1 ธ.ค. 58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายจากคลิปเหตุการณ์ที่คนร้ายขี่มอเตอร์ไซค์ก่อเหตุปล้นทรัพย์หญิงสาว เมื่อเหยื่อไม่ยอมจึงใช้มีดแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนพ่อที่มาช่วยลูกก็ถูกทำร้ายตามไปด้วย โดยเหตุเกิดช่วงกลางดึก วันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายในซอย ศรีนครินทร์ 11 เขตประเวศ

ผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวคือ นายเอกรินทร์ ทะสา หรือฮารูณ อายุ 20 ปี นายอัศดา นิติสาขา หรือแมว อายุ 19 ปี นายอำพล คุ้มม่วง หรือกุ๊ป อายุ 18 ปี ซึ่งถูกนำตัวมาแถลงข่าวที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ เมื่อเวลา 21.00 น.ที่ผ่านมา(30 พ.ย.) โดยมีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวรรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมแถลงข่าวถึงการบุกจับกุมทั้ง 3 คน ได้ที่ย่านสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.

ส่วน นายอนุชา แก้วกุดฉิม หรือกอล์ฟ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมบริเวณซอยอุดมสุข 25 ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลแขวงพระโขนง ก่อนหน้านี้ ซึ่งเบื้องต้น ทั้ง 4 คน ถูกตั้งข้อหาปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจรที่ได้มาจากการปล้นทรัพย์

ส่วนของกลางที่ยึดได้ เป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ 8 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 4 เอส จำนวน 1 เครื่อง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีน้ำตาล-ดำ หมายเลขทะเบียน อขบ-43 กทม.

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า นายจักรรินทร์ เคยถูกจับกุมในข้อหาพรากผู้เยาว์ ถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี เพิ่งพ้นโทษเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ส่วนนายอัศดา เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดและลักทรัพย์ซึ่งอยู่ระหว่างการประกันตัว และนายอำพล เคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชา

ระหว่างแถลงข่าว ได้เชิญนายชัยวัฒน์ บุญจรัส อายุ 53 ปี และนางสาวภาณุรัตน์ บุญจรัส อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย มาชี้ตัวผู้ก่อเหตุด้วย ซึ่งนายชัยวัฒน์ได้ว่ากล่าวตักเตือน ผู้ก่อเหตุ และนายอัศดาได้ก้มลงกราบเพื่อขอขมา ต่อผู้เสียหาย

การจับแก๊งวัยรุ่นกลุ่มนี้ มีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดตรงจุดเกิดเหตุ ทำให้ผู้ก่อเหตุ ยอมจำนน โดยสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้ชวนเพื่อนรวม 4 คน ขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนท้าย ตระเวนหาเหยื่อ จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.20 น. พบหญิงสาวลงจากรถประจำทาง  เดินมาถึงหน้าคอนโดมิเนียม UNICO ซอยศรีนครินทร์ 11 จึงลงมือปล้นทรัพย์ แต่อีกฝ่ายขัดขืน ทำให้ต้องใช้มีดฟัน และทำร้ายพ่อของเหยื่อด้วย แต่อ้างว่าที่ทำลงไปเพราะขาดสติ จากอาการมึนเมาสารเสพติด 4 คูณ 100 จากนั้นได้นำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงรุ่นเอ 8 ของเหยื่อไปขาย และนำเงินไปเที่ยวเตร่ ตอนนี้รู้สึกสำนึกผิด และสงสารผู้เสียหาย