ฝรั่งเศสจัดงาน “วันบัสตีย์” เนื่องในโอกาสครบรอบ 226 ปี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบสาธารณรัฐ
วานนี้(14ก.ค.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประเทศฝรั่งเศสฉลองวันบัสตีย์ หรือ วันชาติ 14 กรกฎาคม อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา เหมือนกับทุกๆปีที่ผ่านมา โดยพิธีหลักมีขึ้นในกรุงปารีส ขบวนสวนสนามของกองทัพได้ลอดซุ้มประตูชัย และเคลื่อนไปตามถนนช็องเซลีเซ ขณะที่ฝูงบินรบขับไล่และฝูงบินผาดโผน ก็บินโฉบเฉี่ยวบนท้องฟ้าเหนือบริเวณงาน
อย่างไรก็ตามปีนี้นับเป็นปีแรก ที่มีกองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย เข้าร่วมเดินสวนสนามด้วย เนื่องจากกลุ่มผู้นำของฝรั่งเศสต้องการแสดงแสนยานุภาพ และประกาศความพร้อมในการต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรง
งานฉลองปีนี้มีขึ้นหลังจากฝรั่งเศสถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีเมื่อเดือน ม.ค. มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ และเหตุการณ์ที่ลูกจ้างหัวรุนแรงฆ่าตัดหัวนายจ้างเมื่อเดือนที่แล้ว ในงานนี้ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส ได้เป็นประธานในพิธีเฉลิมฉลองประจำปี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึง ประธานาธิบดีเอ็นริเก พีนา นีเอโต ผู้นำเม็กซิโก
วันบัสตีย์ถือเป็นวันหยุดแห่งชาติของฝรั่งเศส เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์ที่คุก “บัสตีย์”(Bastille)ซึ่งคุมขังนักโทษการเมืองในฝรั่งเศสถูกทำลายโดยพลังประชาชน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 1789 ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดการปกครองแบบราชาธิปไตยในประเทศฝรั่งเศส และเริ่มต้นศักราชของ การปกครองแบบสาธารณรัฐเป็นครั้งแรก ในวันหยุดประจำชาติวันนี้
นอกจากชาวฝรั่งเศสจะร่วมกันรำลึกถึงการก่อตั้งสาธารณรัฐแล้ว ยังเป็นวันที่เปรียบเสมือนรากเหง้าประวัติศาสตร์ ของการเปลี่ยนแปลงการปกครองอันน่าจดจำ โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่่น่าสนใจคือในวันที่ 5 พ.ค. 1789 บรรดาเหล่าขุนนางในระบอบการปกครอง แบบราชาธิปไตยเปิดประชุมสภาขุนนางทันทีที่พวกเขาได้ข่าวว่า บรรดาชนชั้นแรงงาน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของสังคมฝรั่งเศสในสมัยนั้น เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้เป็นระบอบสาธารณรัฐ รวมทั้งให้มีการ ร่างรัฐธรรมนูญและก่อตั้งรัฐสภาแห่งชาติ 20 มิถุนายน 1789 ตัวแทนของคณะก่อการจากชนชั้นแรงงาน ได้กระทำสัตยาบรรณร่วมกัน ที่เรียกว่า “เจอ เดอ ปูม”(Jeu de Paume) ซึ่งจารึกไว้ว่า เหล่าคณะผู้ก่อการจะไม่แตกแยกกันจนกว่าจะมีการร่างรัฐธรรมนูญเป็นผลสำเร็จ
แนวความคิดของคณะผู้ก่อการ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนชาวฝรั่งเศสที่ต้องต่อสู้กับความแร้นแค้น และสภาวะเสื่อมถอยของสังคมในสมัยนั้น ในขณะที่แนวความคิดนี้ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงกับชนชั้นขุนนาง วันที่ 14 กรกฏาคม 1789 เมื่อมีแนวร่วมมากขึ้น คณะก่อการปฏิวัติแข็งแกร่งขึ้น ประชาชนในปารีสได้รวมตัวกันเดินขบวนไปยังคุก Bastille เพื่อ ปลดปล่อยนักโทษทางการเมืองที่มีความเห็นไม่ตรงกันกับบรรดาเหล่าขุนนาง ความล่มสลายของคุก Bastille จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพ และประชาธิปไตย ของชาวฝรั่งเศสทุกคนตราบจนกระทั่งทุกวันนี้
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก :TNN24
Add One