ศาลสูงสุดของญี่ปุ่นเตรียมตัดสินชี้ขาดควรยกเลิกกฎหมาย กำหนดให้คู่สมรสต้องใช้นามสกุลเดียวกันหรือไม่
วันนี้(11 ธ.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าสังคมญี่ปุ่นกำลังมีการถกเถียงกันมากขึ้น ก่อนหน้าที่ศาลสูงสุดจะตัดสินชี้ขาดว่าควรยกเลิกกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้คู่สมรสต้องใช้นามสกุลเดียวกันในวันพุธ ที่ 16 ธ.ค.นี้
ขณะที่ศาลเจ้าฮิเอะในกรุงโตเกียว สามี-ภรรยาหลายคู่พาลูกน้อยที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน มาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยปกปักษ์คุ้มครอง โดยแต่ละคู่มีความเห็นเกี่ยวเรื่องนามสกุลแตกต่างออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าการเปลี่ยนนามสกุล ภายหลังการสมรสจะทำให้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าประชาชนควรมีเสรีภาพในการตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุล
ด้านนางยาเอะโกะ ฮิซาโตโมะ ซึ่งมีนามสกุลเดิมว่า ยามาดะ ให้ความเห็นว่าการใช้นามสกุลเดียวกันทำให้คู่สมรสเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างแท้จริง ขณะที่นายมาโกโต้ ยามานูชิ ซึ่งมากับภรรยา ระบุว่า เขาเห็นด้วยในแง่ความผูกพันกัน แต่สำหรับพวกผู้หญิงที่มีอาชีพการงาน เขาเชื่อว่ามีหลายคนไม่เห็นด้วยและต้องการมีสิทธิ์ ที่จะเลือกใช้นามสกุล
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นชาติสมาชิกกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ จี 7 เพียงชาติเดียว ที่ยังกำหนดให้คู่สมรสต้องใช้นามสกุลเดียวกัน
สำหรับกฎหมายฉบับปีพ.ศ.2539 กำหนดให้คู่สมรสต้องใช้นามสกุลเดียวกันในการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่กฎหมายมิได้บังคับว่าต้องเป็นนามสกุลของฝ่ายสามีหรือภรรยา อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ สตรีร้อยละ 96 ใช้นามสกุลของสามี ซึ่งสะท้อนว่าญี่ปุ่นยังคงเป็นสังคมที่บุรุษเป็นใหญ่
โดยศาลสูงสุดของญี่ปุ่นต้องมีการตัดสินชี้ขาดในเรื่องนี้ หลังจากสตรี 5 คน ซึ่งรวมทั้ง คาโอริ โอกุนิ ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ซึ่งโจทก์ระบุว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญและทำลายสิทธิพลเรือนของคู่สมรส ปัจจุบันมีสตรีญี่ปุ่นจำนวนมากใช้นามสกุลเดิมสำหรับการประกอบอาชีพและใช้นามสกุลของคู่สมรสในการทำเอกสารต่างๆของทางการ คู่สมรสบางคู่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรส เพื่อใช้คนละนามสกุลกันแต่วิธีนี้ก็สร้างความปวดหัวในทางกฎหมาย เช่น สิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร หรือในการรับมรดก
จากผลสำรวจของหนังสือพิมพ์อาซาฮีเมื่อเดือนที่แล้ว พบว่า ชาวญี่ปุ่นร้อยละ 52 ต้องการมีสิทธิ์เลือกใช้นามสกุล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ขณะที่ร้อยละ 34 คัดค้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นเก่า ที่ต้องการรักษาขนบประเพณี การตัดสินชี้ขาดของศาลสูงสุดมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะกำลังผลักดันให้ผู้หญิงและผู้สูงอายุเข้าร่วมในตลาดแรงงาน ซึ่งกำลังหดตัว
ส่วนพวกอนุรักษ์นิยม รวมทั้งสมาชิกหลายคนในพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี ของนายอาเบะ ระบุว่า การอนุญาตให้คู่สามีภรรยาเลือกใช้นามสกุลได้นั้นอาจทำลายความผูกพันในครอบครัวและเป็นอันตรายต่อสังคมได้
Add One