สธ.ได้ปรับปรุงร่างพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ พร้อมเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมครม.
วันนี้(19 ธ.ค.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ 18 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ให้สอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลกและเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมครม.โดยกฎหมายดังกล่าวไม่มีประเด็นใดที่เป็นการกีดกันการค้า หรือขัดต่อกฎกติกาการค้าโลก แต่เป็นการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมกับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ โดยกำหนดอายุขั้นต่ำผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบเพิ่มขึ้นจากเดิม 18 ปี เป็น 20 ปีทำให้เยาวชนเข้าถึงบุหรี่ได้ยากขึ้น ก่อนจะได้กฎหมายฉบับนี้ มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น และทำประชาพิจารณ์ตามกระบวนการแล้ว
ทั้งนี้ หากพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะช่วยลดจำนวนเยาวชนไทยที่จะติดบุหรี่ใหม่ถึงปีละ 1 แสนคน จากการวิจัยพบว่า หากป้องกันเด็กไทยไม่ให้ติดบุหรี่ได้ 1 คน จะประหยัดค่ารักษาโรค และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจอื่นๆ ได้คนละ 156,000 บาท
ด้านนพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การขึ้นป้ายโจมตี พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ว่าเป็นการทำลายธุรกิจค้าปลีกนั้น หากดูยอดจำหน่ายบุหรี่ต่อปี คือ 2,008 ล้านซอง โดยร้านค้าปลีกขายได้ประมาณ 8 ซองต่อวัน หรือ 240 ซองต่อเดือน มีกำไรเฉลี่ยต่อซอง 3.5 บาท ต่อเดือนจะอยู่ที่ 840 บาท แต่กำไรของอุตสาหกรรมยาสูบอยู่ที่ปีละ 9,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นของโรงงานยาสูบ 6,000 ล้านบาท โดยกฎหมายฉบับใหม่จะทำให้กำไรลดลงประมาณร้อยละ 10 เท่ากับรายได้ของร้านค้าปลีกจะหายไป 84 บาทเท่านั้น แต่กำไรที่หายไปส่วนใหญ่เป็นของอุตสาหกรรมบุหรี่ คาดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการขึ้นป้ายต่อต้าน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการส่งหนังสือไปถึงรัฐมนตรีทุกกระทรวงให้ช่วยยับยั้งกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยระบุว่า ธุรกิจได้รับผลกระทบ แต่ไม่เคยระบุว่าธุรกิจบุหรี่สร้างความเสียหายต่อสุขภาพคนอย่างไร
Add One