เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือเรือผู้อพยพชาวโรฮีนจา-บังคลาเทศร่วม600คนขึ้นฝั่งอินโดนีเซีย 

วันนี้ (11พ.ค.58) หัวหน้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยในจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเชีย และเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ เพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ในกรุงจาการ์ต้าแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือผู้อพยพขึ้นจากเรือ 4 ลำ ซึ่งมีชาวมุสลิมโรฮีนจา และชาวบังคลาเทศอย่างน้อย 573 คน โดยสารมา ขณะลอยลำอยู่นอกชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์เมื่อวานนี้ โดยเห็นได้ชัดว่า เรือ 3 ลำในจำนวนนี้ถูกขบวนการค้ามนุษย์จอดทิ้งไว้ ส่วนอีกลำน้ำมันหมด

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้อพยพเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชาย นอกนั้นเป็นหญิง 98 คน และเด็ก 51 คน ทั้งหมดมีอาการหิวโหย และหลายคนจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ โดยคาดว่า น่าจะยังมีผู้อพยพ  ที่ลอยเรือกลางทะเลอีกหลายพันคน นอกชายฝั่งอินโดนีเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังออกค้นหาแล้ว

ขณะที่นาย ราชี้ด อาห์เหม็ด ชาวโรฮีนจา วัย 43 ปี กล่าวว่า เขากับลูกชายคนโตได้นั่งเรือออกจากรัฐยะไข่ ของเมียนมาร์มาตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อนอย่างไร้จุดหมายปลายทาง

ทั้งนี้ คลื่นผู้อพยพทางเรือชาวโรฮีนจาหลั่งไหลออกจากเมียนมา นับตั้งแต่เกิดเหตุม็อบชาวพุทธโจมตีชาวโรฮีนจา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน  นับเป็นการอพยพทางเรือครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากสงครามเวียดนามเป็นต้นมา โดยมีชาวโรฮีนจาหนีภัยจากเมียนมาแล้วราว 100,000 คน จากข้อมูลของคริส เลวา ผู้อำนวยการโครงการอะระกัน ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของผู้อพยพชาวโรฮีนจามานานกว่า 10 ปี

เลวายังคาดว่า มีผู้อพยพราว 7,000-8,000 คน ติดอยู่ในเรือ ซึ่งมีทั้งเรือขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในช่องแคบมะละกา และในบริเวณใกล้กับเขตน่านน้ำสากลในขณะนี้ โดยการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ในไทยและมาเลเซียทำให้พวกนายหน้า ไม่สามารถนำผู้อพยพขึ้นฝั่งได้

ชาวโรฮีนจาจะขึ้นเรือนั่งอัดแน่นกันมาออกเดินทางจากอ่าวเบงกอล โดยมีผู้อพยพชาวบังคลาเทศ ซึ่งหนีความยากจนในประเทศ ร่วมเดินทางมาด้วย และมีจุดแวะพักแรกในประเทศไทย ซึ่งถูกมองว่า เป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์ในภูมิภาค กระทั้งเกิดเหตุการณ์กักขังผู้อพยพกลางป่า เพื่อเรียกค่าไถ่จากครอบครัว โดยหากญาติของผู้อพยพคนใดยอมมอบค่าไถ่จำนวน 2 พันดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 66,000 บาทให้ ผู้อพยพก็จะได้เดินทางต่อไปยังมาเลเซีย หรือชาติอื่น ๆ ส่วนผู้ที่ไม่มีญาติส่งค่าไถ่ก็อาจถูกฆ่า หรือถูกทิ้งไว้ให้ตายไปเอง

ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24