ออกหมายจับหนุ่มใหญ่เมืองระยอง บุกฆ่ารัดคอแม่หม้ายลูกสอง อ.ฝาง ดับคาห้องพัก เหตุผู้ตายหมางเมินซ้ำขอแยกทาง เผยคนร้ายคบหาดูใจกับผู้ตายผ่านเฟซบุ๊กนาน 2 เดือน ด้านรอง ผกก.สภ.บ้านฝางลั่นเร่งล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
จากกรณี นางสาวอารีรัตน์ อินละม่อม อายุ 30 ปี ผูกคอตายคาบ้านพักเลขที่ 189 ม.2 บ้านโนนฆ้อง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 58 ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานพร้อมชันสูตรพลิกศพแล้ว พบว่าเป็นการฆ่าอำพรางคดีไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตาย
วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.แมน ศิริฉายา รองผู้กำกับการ สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวได้มีการออกหมายจับและขอความร่วมมือผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เร่งจับกุมนายนิวัฒน์ พรหมภักดี หรือกบ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/33 ม.5 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ผู้ต้องหาตามหมายศาล ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังพบพยานหลักฐานประกอบการให้ปากคำของญาติผู้เห็นเหตุการณ์ รวมถึงผลการชันสูตรพลิกศพชี้ชัดไม่ใช่การผูกคอตายแต่อย่างใด

พ.ต.ท.แมน ศิริฉายา รอง ผกก.สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงรายละเอียดการออกหมายจับ นายนิวัฒน์ หรือนายกบ ว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานภายในที่เกิดเหตุพบรูปถ่ายคนร้ายในกระเป๋าของผู้ตายซึ่งคบหาดูใจกันผ่านเฟซบุ๊กมานานกว่า 2 เดือน และหลักฐานการโอนเงินให้คนร้ายเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558

ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2558 คนร้ายได้ไลน์หาผู้ตายว่าจะเข้ามาหาในบ้าน แต่ผู้ตายมีท่าทีหมางเมินและขอแยกทาง จนถูกคนร้ายข่มขู่ฆ่าหมายเอาชีวิต กระทั่งเช้าวันที่ 25 ก.พ. 2558 ก็พบนางสาวอารีรีตน์เป็นศพในห้องพัก สภาพร่างนั่งพิงกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอน มีผ้าม่านคล้องไว้ที่ลำคอ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุ พบความผิดปกติทั้งผ้าม่านที่คล้องคอก็คล้องลักษณะหลวมๆ แต่ที่ลำคอคนตายกลับมีรอยรัดจนเห็นได้ชัด และไม่มีร่องรอยการต่อสู้

ประกอบกับพยานปากสำคัญ คือ บุตรชายผู้ตายอายุ 9 ขวบ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าเห็นคนร้ายใช้เชือกสีแดงรัดคอมารดาขณะมารดานอนคว่ำหน้ากับที่นอน แต่เด็กไม่กล้าร้อง จึงแกล้งหลับตาและเผลอหลับไป กระทั่งเช้าเห็นแม่นั่งพิงตู้เสื้อผ้าจึงรีบไปบอกตากับยายให้ไปดูแม่ในห้อง ปรากฏว่าแม่ตายแล้ว จึงส่งเชือกสีแดงไปตรวจสอบ ผลปรากฏชัดพบดีเอ็นเอของมนุษย์ 2 คน จึงคาดว่าเป็นของคนร้ายและผู้ตายแน่นอน

นอกจากนี้ ได้รับรายงานผลชันสูตรพลิกศพของแพทย์เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2558 ยืนยันว่า สภาพศพผู้ตายพบร่องรอยช้ำที่ลำคอในลักษณะขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร ขนานกับลำคอผู้ตาย ซึ่งผิดหลักธรรมชาติ ซึ่งหากเป็นการผูกคอตายรอยรัดของเชือกจะต้องเป็นแนวเฉียงกับลำคอผู้ตาย น่าเชื่อว่าถูกคนอื่นทำให้ตาย จึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 84/2558 อุกฉกรรจ์ที่ 1/2558 ลงวันที่ 7 เม.ย. 2558

ทั้งนี้ จากการสืบประวัติของคนร้ายมีคดีโชกโชน ขณะนี้ได้ทำการปิดเฟซบุ๊กและไลน์เพื่อหนีความผิด และพบว่าหลังเกิดเหตุการณ์การสนทนาระหว่างคนร้ายกับผู้ตายได้เงียบไป จึงเชื่อว่านายกบเป็นฆาตรกรที่ลงมือฆ่ารัดคอนางสาวอารีรัตน์จนตายคามือแล้วลากศพผู้ตายไปไว้ข้างตู้เสื้อผ้าก่อนจะเอาผ้าม่านในตู้มาคล้องที่คอผู้ตาย ทำทีเหมือนคนผูกคอตายเอง แล้วหลบหนีไป

ต่อมาในวันที่ 8 เม.ย. 2558 พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหานี้ไว้ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.152/2558 ลงวันที่ 8 เม.ย. 2558 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว จึงเร่งขอความร่วมมือเพื่อติดตามคนร้ายมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่นางภัชรี อินละม่อน แม่ของผู้ตาย ระบุว่า ลูกสาวเป็นแม่หม้ายมีลูก 2 คน หย่าร้างกับสามีเก่ามานานกว่า 2 ปีแล้ว นิสัยเป็นคนร่าเริง แจ่มใส และไม่มีเหตุที่ต้องไปผูกคอฆ่าตัวตาย จึงมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการถูกฆ่าอำพรางคดี ซึ่งช่วงหลังลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่ามีผู้ชายที่มาติดพันด้วย แต่ตนอยากจะเลิกรา กลับถูกข่มขู่ฆ่าหมายเอาชีวิต แต่ตนก็คิดไม่ถึงว่าคนร้ายจะอุกอาจบุกมาฆ่าลูกสาวตนถึงในบ้านได้

ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : ASTV ผู้จัดการ