รัฐบาลมาเลเซียนำรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับการสูญหายของเที่ยวบินMH370 เผยแพร่วานนี้ โดยที่มีการเรียงลำดับเวลาการสนองตอบต่างๆ ต่อการหายไปของเครื่องบินโดยสารลำนี้
วันนี้(2พ.ค.57) รัฐบาลมาเลเซียนำรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับการสูญหายของเที่ยวบินMH370 เผยแพร่วานนี้ โดยที่มีการเรียงลำดับเวลาการสนองตอบต่างๆ ต่อการหายไปของเครื่องบินโดยสารลำนี้และได้ยื่นต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอซีเอโอ ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มีเนื้อหาเป็นการปะติดปะต่อข้อมูลซึ่งส่วนใหญ่ได้มีการเผยแพร่ให้ทราบกันไปแล้ว รายงานนี้พร้อมด้วยเอกสารประกอบจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางการมาเลเซียส่งเป็นอีเมลไปถึงองค์การข่าวสารต่าง ๆ นั้น ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสำคัญใด ๆ ที่จะเป็นเงื่อนงำชี้ถึงสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งยังคงเป็นเรื่องปริศนาลึกลับที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์การบินของโลก
รายงานได้เปิดเผยแผ่นที่เส้นทางการบินที่มีความเป็นไปได้ 3 เส้นทาง พร้อมบันทึกคำสนทนาระหว่างเที่ยวบินเอ็มเอช370 ที่กำลังบินตรงไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และหอควบคุมการบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเทปบันทึกเสียงในช่วงเวลาจริง ก็ได้เผยแพร่ทางสื่อมวลชนหมดแล้ว ซึ่งเป็นบทสนทนาก่อนเครื่องบินทะยานขึ้น และสัญญาณขาดขาดนอกน่านฟ้ามาเลเซีย โดยคำพูดจบลงที่คำว่า “ราตรีสวัสดิ์ มาเลเซีย 370”
จากแผนที่เส้นทางการบินเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เอ็มเอช370 หันหัวเลี้ยวกลับขณะอยู่เหนือทะเลจีนใต้แล้ว โดยได้บินตัดข้ามส่วนใต้สุดของประเทศไทย ใกล้ ๆ พรมแดนติดต่อรัฐกลันตันของมาเลเซีย จากนั้นจึงบินข้ามคาบสมุทรมาเลเซีย เครื่องบินได้เลี้ยวไปทางตะวันตกเมื่อบินเหนือช่องแคบมะละกาที่บริเวณใกล้ ๆ กับเมืองปีนัง แล้วจึงบินต่อไปจนกระทั่งเลยขีดจำกัดการติดตามของเรดาร์ทหารของมาเลเซีย
ภายหลังออกพ้นพื้นที่ครอบคลุมของเรดาร์ทหารมาเลเซียแล้ว เอ็มเอช370 ได้เลี้ยวลงใต้และบินไปยังตอนเหนือของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ก่อนที่จะบ่ายหน้าไปทางใต้ของมหาสมุทรอินเดีย บริเวณนอกชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย อันเป็นพื้นที่ ซึ่งกำลังมีการรวมศูนย์ค้นพาใต้ทะเลกันอยู่ในเวลานี้
รายงานชิ้นนี้ ยังได้เผยแพร่ใบแจ้งสินค้าที่เอ็มเอช 370 บรรทุกไป ซึ่งเป็นการยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้กำลังลำเลียงมังคุดกว่า 4.5 ตัน และแบตเตอรีลิเธียมอิออนอีกเกือบ 2.5 ตัน โดยตราประทับบนใบแจ้งสินค้าสำหรับการขนส่งแบตเตอรี ระบุยืนยันว่า แบตเตอรีเหล่านี้ได้รับการบรรจุหีบห่ออย่างถูกต้องตามกฎระเบียบของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไอเอทีเอ
กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย สรุปในรายงานฉบับนี้ว่า การสูญหายไปของเที่ยวบินเอ็มเอช370 และของเที่ยวบิน เอเอฟ447 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์เมื่อปี 2552 เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าองค์การการบินพลเรือน ควรพิจารณากำหนดให้เครื่องบินขนส่งเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ต้องติดตั้งอุปกรณ์ติดตามแบบเรียลไทม์ หรือเวลาจริงโดยถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24
Add One