กรมขนส่งติวเข้มแท็กซี่ก่อนขึ้นค่ามิเตอร์

Written on:October 28, 2014
Comments
Add One

กรมขนส่งทางบกประชุมผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์-ตัวแทนคนขับ ทำความเข้าใจการปรับปรุงยกระดับบริการ ก่อนปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารระยะที่1 ภายในเดือนธ.ค.นี้ 

วานนี้ (27 ต.ค.57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่กระทรวงคมนาคม ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์  เช้าวันนี้ทางกรมขนส่งทางบก จึงเรียกประชุมผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์และตัวแทนผู้ขับรถแท็กซี่

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของ นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า  การปรับค่าโดยสารเพื่อสะท้อนต้นทุนราคาที่แท้จริง เนื่องจากแท็กซี่ไม่ได้ปรับขึ้นราคาค่าโดยสารมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ก่อนเข้าสู่กระบวนการปรับค่าโดยสาร รถแท็กซี่ทุกคันจะต้องผ่านการพัฒนาคุณภาพตัวรถและผู้ขับ เพื่อรับเครื่องหมายการรับรองคุณภาพก่อน

สำหรับการปรับขึ้นราคาทางกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้กรมขนส่งทางบก ปรับขึ้นราคาโดยสารเฉลี่ยร้อยละ13 คิดจากภาวะเงินเฟ้อ แต่จะแบ่งการปรับขึ้นราคาออกเป็น 2 ระยะ ในระยะแรก จะขึ้นราคาประมาณร้อยละ 6-7 ภายในต้นเดือนธ.ค.2557นี้ ซึ่งราคาค่าโดยสาร ระยะเริ่มต้นจะยังคงไว้ที่อัตราเดิม 35 บาท แต่จะปรับขึ้นในส่วนของการคำนวณอัตราค่าโดยสาร ที่เปลี่ยนแปลงจากการคิดอัตราทุก 12 กิโลเมตร เหลือเป็นคิดค่าโดยสารทุก 10 กิโลเมตร

 ส่วนกรณีที่รถติดจอดอยู่กับที่ หรือ เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะปรับขึ้น จาก 1.50 สตางค์ต่อนาที เป็น 2 บาทต่อนาที  สำหรับการปรับขึ้นราคาในระยะที่ 2 จะต้องประเมินจากในระยะแรกก่อน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนหลังปรับขึ้นราคาในระยะแรก

ขณะที่อธิบดีกรมขนส่งทางบก กล่าวถึงนโยบายที่ให้ตรวจสอบจำนวนรถแท็กซี่ในประเทศไทย ว่ามีจำนวนมากหรือน้อยเกินไปต่อความต้องการของประชาชน พบว่าปัจจุบันมีรถแท็กซี่ทั่วประเทศประมาณ 100,000คัน ซึ่งหลังการตรวจสอบทางกระทรวงคมนาคมและกรมขนส่งทางบกก็จะมีมาตราการดูแลในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24

 


   ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ


คสช.เปิดสายด่วนรับร้องทุกข์24ชม.

สมาพันธ์ภาพยนตร์ฯเลือก”คิดถึงวิทยา”ไปออสการ์

คนเฮ!มติครม.ไฟเขียวเพิ่มวันหยุด4พ.ค.

“นาดาล”ฟิต! ลงซ้อมเทนนิสศึกประวัติศาสตร์

ฝนตกหนักปราจีนฯ-ระนอง-ตราดอ่วมน้ำ

หน.คสช.ถกตามงานจับตาคืบหน้าร่างรธน.ชั่วคราว

Leave a Comment

Your email address will not be published.