ผู้อพยพชาวโรฮิงญาในทะเลอันดามันของไทยตายแล้ว10คนและศพของผู้เสียชีวิตถูกโยนทิ้งทะเล

วันนี้(15 พ.ค.58) ผู้อพยพทางเรือจากเมียนมาร์ ซึ่งติดอยู่บนเรือในทะเลอันดามันมา 1 สัปดาห์ โดยไม่มีอาหารหรือน้ำดื่ม เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 คน ขณะเดียวกันบางคนก็กำลังหันไปดื่มน้ำปัสสาวะ เพื่อประทังชีวิต โดยเรือประมง ซึ่งบรรทุกชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา ประมาณ 350 คน ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศไทยชาวโรฮิงญาบนเรือให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบีบีซีว่าลูกเรือทอดทิ้งพวกเขาและเครื่องยนต์ของเรือก็ขัดข้อง ส่วนศพของผู้เสียชีวิต ถูกโยนลงทะเล ทั้งนี้ ทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซียและไทย ต่างพากันผลักดันเรือผู้อพยพไม่ให้เข้าน่านน้ำของตัวเอง

ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า มีผู้ลี้ภัยหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญายังถูกเชื่อว่า อยู่บนเรือนอกชายฝั่งของไทยและมาเลเซีย โดยชาวโรฮิงญาเหล่านี้ไม่สามารถเดินทางกลับเมียนมาร์ได้ เนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นพลเมืองของเมียนมาร์และมักถูกเข่นฆ่าอยู่เป็นประจำ ผู้สื่อข่าวบีบีซี รายงานจากบริเวณที่เรือผู้ลี้ภัยลอยเคว้งอยู่ นอกชายฝั่งเกาะหลี่เปะ ของไทย ระบุว่า มันเป็นภาพที่น่าหดหู่สิ้นหวัง และเต็มไปด้วยอันตราย ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ซึ่งมีผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก ต่างร้องขออาหารและน้ำดื่ม อยู่บนเรือประมงเก่า ๆ ลำหนึ่ง ซึ่งแออัดยัดเยียดด้วยผู้ลี้ภัย และที่น่าสลดใจยิ่งกว่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พวกเขาได้เห็นผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ดื่มน้ำปัสสาวะจากขวดด้วย

ทั้งนี้ พวกเขาต้องใช้ผ้าห่มผูกเพื่อเป็นร่มบังแสงอาทิตย์ ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดถึง 34 องศาเซลเซียส ผู้อพยพ ซึ่งมีผู้หญิง 50 คน และเด็ก 84 คน กล่าวว่า พวกเขาเดินทางอยู่ในทะเลมานาน 3 เดือนแล้ว สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายมากขึ้นเมื่อลูกเรือทอดทิ้งพวกเขาโดยที่เครื่องยนต์ของเรือขัดข้องเมื่อ 6 วันก่อน ทอดสมออยู่ใกล้พรมแดนไทย-มาเลเซีย

ส่วนเมื่อคืนวันพุธ(13 พ.ค.)ที่ผ่านมา เรือประมงไทยได้พบเรือของพวกเขาและลากเข้าไปในน่านน้ำมาเลเซีย จากนั้นเรือก็ถูกลากกลับเข้าไปในน่านน้ำไทย เจ้าหน้าที่กองทัพเรือของไทย กล่าวว่า ผู้อพยพต้องการเดินทางไปยังมาเลเซีย และไทยจะช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรค และอนุญาตให้พวกเขาเดินทางต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ เริ่มลงทะเบียนผู้อพยพชาวโรฮิงญา ในจังหวัดอาเจะห์ ทางตอนเหนือของอินโดนีเซียแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่อินโดนีเซียช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเกือบ 600 คนจากเรือไม้ และพาพวกเขาขึ้นฝั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จัดสถานที่ให้อยู่ชั่วคราวในสำหนักงานของรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งผู้ลี้ภัยมีผู้หญิงหลายร้อยคน และเด็กหลายสิบคน

ยูเอ็นเอชซีอาร์ แถลงว่าผู้อพยพหลายพันคนถูกขบวนการค้ามนุษย์ทอดทิ้งไว้กลางทะเล หลังจากรัฐบาลไทยเอาจริงในการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์และได้เตือนว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจพัฒนาการเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ทั้งนี้การกวาดล้างของรัฐบาลไทย ทำให้แก๊งค้ามนุษย์ กังวลที่จะขึ้นฝั่งประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเครือข่ายค้ามนุษย์ในภูมิภาค และทำให้ผู้อพยพมุ่งหน้าไปยังอินโดนีเซียและมาเลเซียมากขึ้น โดยผู้อพยพมากกว่า 1,600 คน เดินทางถึงมาเลเซียและอินโดนีเซียเมื่อสุดสัปดาห์

สหประชาชาติ ระบุว่า ชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมไร้สัญชาติจากบังกลาเทศและเมียนมาร์ เป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่ถูกฆ่ามากที่สุดในโลก ขณะที่ ยูเอ็นเอชซีอาร์ กล่าวว่า มีชาวบังกลาเทศและโรฮิงญาประมาณ 25,000 คน เดินทางด้วยเรือของขบวนการค้ามนุษย์ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วงเดียวกันของปี 2557

 
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24