สาธารณสุขวางมาตรการเข้มสกัดโรคเมอร์ส วอนผู้เข้าข่ายป่วยแจ้งจนท.โดยด่วน

วันนี้ (25 มิ.ย. 58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการล่าสุดของชาวโอมาน ผู้ป่วยเมอร์สรายแรกของประเทศไทยมีอาการดีขึ้น รับออกซิเจนน้อยลง สามารถลุกเดินเองได้ แต่เพราะอายุมาก และเป็นโรคหัวใจ จึงยังต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ญาติ 3 คน มีอาการดีขึ้นเช่นกัน โดยกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้เร่งติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเมอร์สรายแรกอีก 9 คน ประกอบด้วย ชาวต่างชาติ 8 คน ที่โดยสารเครื่องบินลำเดียวกันกับผู้ป่วยเมอร์ส และคนขับแท็กซี่อีก 1 คน เพื่อนำตัวมาเฝ้าระวังอาการให้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศฉบับที่ 2 ให้ผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยว่าตนเองจะป่วย หรือผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยด่วน หากเจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้านพบผู้เข้าข่ายต้องแจ้งเจ้าพนักงานโดยด่วน หากไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ด้านนพ.สุรเชษฐ์ สถิตินิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเมอร์สเพียง 1 ราย คือชาวโอมานที่กำลังรักษตัวอยู่ในขณะนี้ ส่วนผู้สัมผัสโรคลดลงเหลือ 160 คน เพราะมี 3 คนเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ขณะที่ผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคมีเพิ่มขึ้นจาก 14 คน เป็น 72 คน เนื่องจากมีผู้เดินทางจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดทำให้ตรวจหาเชื้อเพิ่ม แต่ขณะนี้ยังไม่พบผู้ใดป่วยเพิ่มเติม

นอกจากนี้ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้นำคณะไปตรวจความพร้อมและมาตรการคัดกรองผู้ป่วยเมอร์ส ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท หลังพบเคยมีผู้ป่วยต้องสงสัยเดินทางกลับจากเกาหลีใต้มาเข้ารับการคัดกรอง 4 คน โดยผลการตรวจเป็นลบ แต่ยังต้องติดตามอาการและเฝ้าระวังจนครบระยะการฟักตัวของเชื้อ 14 วัน พร้อมไปตรวจระบบคัดกรองที่สนามบินดอนเมือง เนื่องจากมีสายการบินจากเกาหลีใต้มาลงวันละ 1 เที่ยวบิน พบมีระบบการคัดกรองอย่างเข้มงวด