“ซี ศิวัฒน์”กราบขอโทษแถลงคิดน้อยปล่อยคลิปโต้ดราม่าบัตร Maroon5

วันนี้(6ก.ค.58)จากกรณีที่ เอมมี่ มรกต กิตติสาระ โพสต์รูปบัตรคอนเสิร์ตมารูนไฟว์ 25 ใบที่นั่งติดกัน ลงในอินสตาแกรม จนถูกคนเข้ามาต่อว่าอย่างหนัก หาว่าใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องในการได้บัตรมา ล่าสุดดาราสาวได้ลบภาพดังกล่าว และได้ลงขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ต่อมา “ซี ศิวัฒน์”โชติชัยชรินทร์ เพื่อนสนิทของ “เอมมี่” มรกต ซึ่งเป็น 1 ใน 25 ที่มีชื่อไปดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ได้อัดคลิปเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยเนื้อหาภายในคลิปมีทั้งขอโทษ ประชดประชันแฟนคลับของมารูนไฟว์ ที่ได้เข้ามาต่อว่าเอมมี่อย่างรุนแรง รวมไปถึงเขาและคนที่เกี่ยวข้อง ประโยคหนึ่งเขาได้กล่าวว่า “สิ่งที่ผมพูด ผมอยากให้คุณใช้หัวคิด ไม่ใช่ใช้หัวนมตัวเองคิด” และทันทีที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ซีก็ถูกถล่มยับ

ล่าสุดพระเอกหนุ่มชื่อดังวิก7สี ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ที่สตูดิโอ โดยยกมือขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะไม่ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล พร้อมปรับปรุงและรับฟังเสียวิจารณ์

ซี ชี้แจงอีกว่าโดนด่าถึงพ่อแม่จนเจ้าตัวโกรธไม่มีสติ หลังมีคนส่งอินบ็อกไปในเฟสบุคด่าแม่ว่าเป็นโสเภณี ด่าพ่อว่าเป็นแมงดา รวมถึงคนที่ในครอบครัวว่าเป็นพวกโกงชาติขี้โกง พร้อมยืนยันว่าจะไม่ไปดูคอนเสิร์ตแน่นอนหลังมีคนขู่เอาป้ายไฟมาด่า

“ในส่วนของผมว่าทำไมผมถึงโพสคลิปนั้นลง ผมอยากพูดในส่วนของผมไม่อยากจะดึงใครเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ผมฝากพี่น้องสื่อมวลชนกราบขอโทษ ที่แสดงกิริยาประชดประชันยียวน ไม่ได้คิดผลที่จะตามมา แต่ตั้งแต่ผมอยู่ในวงการนี้ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่เคยคิดจะไปตอบโต้ใคร แต่ในวันนั้นมันเป็นเหตุการณ์ที่ผมไม่เคยเจอเหมือนกันเนื่องจากว่ามันมีข้อความอินบอกเข้ามาในเฟสบุคของผมจริงๆในไอจีผมก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่ามีคนว่าผม คือได้มีการตำหนิอบรมถึงคุณพ่อคุณแม่ผม ใช้คำหยาบคายที่ผมไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน พูดถึงขนาดที่ว่า คุณแม่ผมเป็นโสเภณี พูดถึงขนาดที่ว่าพ่อผมเป็นแมงดา (เสียงสั่นเครือ)

บอกว่าผมมีความคิดแบบนี้เพราะการอบรมบ่มนิสัย สอนลูกดี๊…ดี นะ ให้ลูกมาหากินกับประชาชนพวกโกงชาติ ซึ่งจริงๆคำพูดหยาบคายกว่านี้มาก ใช้คำพูดใต้เข็มขัดตลอด เท่านั้นยังไม่พอพูดถึงภรรยาผม พูดถึงครอบครัวภรรยาผม คุณพ่อของคุณเอมี่ ซึ่งคุณพ่อของคุณเอมี่ก็เปรียบเสมือนคุณพ่อของผม ในจังหวะนั้น

ผมไม่ได้แก้ตัวนะครับ ผมคงคิดน้อยเกินไป ในจังหวะนั้นผมสุภาพไม่ไหวจริงๆ ผมไม่มีสติ ผมให้ปล่อยให้ความโกรธของผมอยู่เหนือของผม ความโกรธที่ผมแสดงออกไป ผมยังอารมณ์ไว้ไม่อยู่ พ่อใครแม่ใครใครก็รัก พ่อผมแม่ผมคือฮีโร่ของผม

คนที่สอนผมทำให้ผมเป็นผู้เป็นคนได้ทุกวันนี้ แล้วท่านก็ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ผมไม่มีโอกาสได้ชี้แจงว่าทำไมคนทั้งประเทศถึงเกลียดผม ว่าผมได้ครับ ผมยินดีน้อมรับเสมอ ผมยินดีเสมอ แต่ขออย่างเดียวอย่าว่าพ่อว่าแม่ผม อย่าตำหนิท่าน ท่านอบรมสั่งสอนผมมาดีแล้ว ผมมันไม่ดีเองผมยอมรับ และกราบขอโทษไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ”