ผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ชี้ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อบ้าน กระทบยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งสูงขึ้น
วันนี้ (3มี.ค.59) นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ขณะนี้สถาบันการเงินบางแห่งประกาศลดพอร์ตสินเชื่อบ้านลง ส่งผลให้ยอดการปฎิเสธสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 % เป็นกว่า 30 % เนื่องจากแบงก์มีการพิจารณาเข้มงวดขึ้น ทั้งการพิสูจน์แหล่งที่มาของรายได้จากที่เคยยืดหยุ่นโดยเฉพาะกรณีที่ไม่มีสลิปเงินเดือน และยังพิจารณาความสามารถผ่อนชำระต่อเดือนจาก 40-50 %ของรายได้สุทธิลดลงมาเหลือ 30% จึงมีผู้กู้ไม่ผ่านมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรเข้ามาดูแลเพราะเป็นการกู้ยืมเพื่อซื้อสินทรัพย์มั่นคง จึงควรผ่อนปรนมากกว่าการปล่อยกู้ยืมบัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล รวมทั้งเห็นว่าจะกระทบการบริโภคและฉุดเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากำลังซื้อในต่างจังหวัดลดลงมากโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่มีรายได้ลดลงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จนผู้ประกอบการส่วนใหญ่ย้ายฐานกลับเข้ามาลงทุนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมแนวเส้นรถไฟฟ้าและบ้านเดี่ยวทาวเฮาส์ในทำเลกึ่งกลาง โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 หมื่นยูนิตและมองว่าปีนี้ภาพรวมบ้านจัดสรรยังสามารถประคองตัวให้เติบโตได้ 5 % แต่ต่างจังหวัดทรงตัว
ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ขณะนี้คอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดอยู่ในภาวะล้นตลาด เช่น จังหวัด ภูเก็ตมีโครงการเหลือขายถึง 10,000 ยูนิต ,จังหวัดระยองและชลบุรีก็มีจำนวนมาก
ส่วนนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย บอกว่าในช่วง 4เดือนแรกของปีนี้ผู้ประกอบการโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ มุ่งระบายโครงการในสต็อกมากกว่าลงทุนใหม่ โดยในต่างหวัดตลาดคอนโดยังชะลตัวต่อเนื่อง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าปีนี้จะเติบโต 0-5 % หรือมียอดขายประมาณ 1.7-1.8 แสนล้านบาท
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24
Add One