อาน้ำอ้อยเผย “ปอ ทฤษฎี” มีการตอบสนองต่อการรับรู้ดีขึ้น แฟนคลับทยอยเข้าให้กำลังใจต่อเนื่อง

วันนี้(26 พ.ย.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ชั้น 9 หออภิบาลผู้ป่วยโรคหัวใจ อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ ยังคงมีสื่อมวลชนติดตามทำข่าวอาการป่วยของนักแสดงชื่อดัง “ปอ  ทฤษฎี สหวงษ์” ตั้งแต่ช่วงเช้า หลังเข้ารับการรักษาด้วยโรคไข้เลือดออกเป็นวันที่ 18

อาน้ำอ้อย – ศรมนตรา พิชัยศรแผลง ผู้จัดการส่วนตัวปอ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าตนเองได้เข้าไปเยี่ยมปอมาเมื่อคืนได้เห็นหน้าเต็มๆได้เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจบอกว่าเราทุกคนอยู่กับเขาตลอดไม่ได้ไปไหนไกล มีคนคิดถึงเป็นห่วง อาพูดไปคุยไปจับมือเขาก็รู้สึกว่าเขาขยับมือตอบรับทุกอย่าง ขยับมือตามที่เราพูดตลอดเหมือนพยายามจะพูดตอบ หลังจากนั้นก็ออกมาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภรรยา โบว์ – แวนด้า เขาก็สัมผัสและรับรู้กันได้ โบว์ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสปอรับรู้ทุกอย่างที่โบว์คุยหลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของแพทย์ที่เข้าไปดูแลต่อ พวกเราดีใจกันใหญ่เลยปอเองตอบในลักษณะขยับมือ หน้าพยักไว้รอให้โบว์พร้อมกว่านี้อีกหน่อยอาจจะมีมาตอบสื่อบ้าง

ขณะที่น้องมะลิก็เข้าไปเต้นอยู่ข้างเตียงเรียกพ่อขาๆตลอด พยาบาลเองยังบอกน้องน่ารักเหลือเกิน เริ่มคุ้นเคยกับทุกคนแล้วเขาเป็นเด็กกล้ายิ้มทักทายคนที่ยิ้มทักทายเขา อนาคตก็มองกันไป เดี๋ยวสายๆ จะมีโอกาสเข้าไปอีกครั้งหน้าน่าจะมีอะไรมาบอกได้มากกว่านี้

โดยจากการแถลงอาการของทีมแพทย์ที่ให้การรักษาปอ เมื่อวานนี้เปิดเผยว่า ปอยังอยู่ในภาวะวิกฤตทรงตัว ความดันเลือดควบคุมได้ดีขึ้น สามารถลดยากระตุ้นความดัน ผู้ป่วยสามารถกระพริบตาได้เอง หายใจได้เองบางส่วน แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังการเกิดภาวะแทรกซ้อน ขณะนี้ยังไม่พบเชื้อไข้เลือดออกในตัวผู้ป่วย ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา มีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารรุนแรง แพทย์จึงจำเป็นต้องผ่าตัดหยุดเลือดในลำไส้ใหญ่ อย่างไรก็ตามช่วงเช้ายังมีบรรดาแฟนคลับทยอยเดินทางไปเยี่ยมและเขียนให้กำลังใจปอและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง

ด้านภรรยาโบว์ แวนดา ได้เปิดเผยรูปลูกสาวมะลิและปออีกครั้ง พร้อมกับระบุข้อความว่า “พ่อจ๋า หายไว ๆ คิดถึง กลับบ้าน” ซึ่งมีแฟนคลับจำนวนมากร่วมแสดงความคิดเห็น ให้กำลังใจ รวมถึงสนับสนุนให้ลงภาพพ่อลูกเรื่อยๆเนื่องจากขณะนี้น้องมะลิกลายเป็นขวัญใจตัวน้อยไปแล้ว

ทั้งนี้ ปอยังอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องพักรักษาตัวที่ห้อง CCU ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอาการป่วยที่มีนัยสำคัญ ทางโรงพยาบาลจะไม่ออกประกาศอาการฉบับใหม่

ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24