เทศกาลตรุษจีนย่านถนนเยาวราชสุดคึกคัก “กี่เพ้า-สินค้ามงคล”ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

วันนี้(18ก.พ.58)วันตรุษจีน เป็นวันเฉลิมฉลองของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งในย่านเยาวราชก็ ถือเป็นไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยประกอบไปด้วยถนนสายทองคำ ธุรกิจการค้า และร้านอาหารต่างๆมากมาย  และในช่วงเทศกาลแบบนี้ ทั้ง 2ข้างทางของย่านเยาวราชก็จะคึกคักเต็มไปด้วยชาวไทย และชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ออกมาจับจ่ายซื้อหาสินค้าเพื่อใช้ในการเซ่นไหว้เจ้าที่และบรรพบุรุษ

ขณะที่ร้านค้าขายของที่ใช้สำหรับการอวยพร  สินค้ามงคลต่างๆ ก็บอกว่าปีนี้ลูกค้าเลือกซื้อป้ายอวยพร กับโคมแดง ที่มีการเขียนคำอวยพรอย่างเช่นคำว่า อยู่เย็นเป็นสุข หรือมั่งมีศรีสุข เพื่อนำไปใช้ตกแต่งบ้าน ซึ่งราคาก็เริ่มต้นตั้งแต่ 5บาท ถึงหลายร้อยบาท ส่วนโคมแดง ราคาก็จะอยู่ที่ คู่ละ 100-900บาท

ส่วนชุดกี่เพ้าปีนี้ก็ขายดีไม่แพ้กัน ชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อกันแน่นร้าน ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกว่า ตั้งแต่ก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน ชุดกี่เพ้าแบบสั้นและชุดกี่เพ้าของเด็กจะขายดีเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะเน้นเป็นชุดสีแดง และสีทอง  ซึ่งราคาก็เริ่มต้นก็ตั้งแต่ชุดละ250ไปจนถึงชุดละ600บาท

สำหรับการอวยพรในเทศกาลตรุษจีนแบบนี้ หลายคนคงจะนิยมการให้สิ่งของมงคลหรือให้อั่งเปาเพื่ออวยพรให้ผู้รับมีความสุขความเจริญรุ่งเรือง  แต่ยังมีชาวไทยเชื้อสายจีน อีกไม่น้อย ที่นิยมประดับคำอวยพรแบบเขียนด้วยภาษาจีนลงบนกระดาษสีแดงแล้วนำมาตกแต่งตามหน้าต่างประตูบ้าน เหมือนในอดีตที่ผ่านมา  โดยอากงเม้ง แซ่เอี๊ยว ผู้เขียนคำอวยพรภาษาจีน ได้บอกว่า อากงเมื่อกว่า20ปี ที่แล้วได้เริ่มมาเขียนคำอวยพรใส่กระดาษแดง  โดยสมัยก่อนคนนิยมกันมาก เฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน เขียนกันวันหนึ่งตกวันละ 30-40แผ่น  ซึ่งคำอวยพรที่ต้องการส่งลูกค้าก็สามารถสั่งได้ตามความต้องการ เช่น สมปรารถนาทุกประการ กิจการรุ่งเรือง เงินทองเต็มบ้านบ้าน รวมทั้งสั่งขนาดของกระดาษได้ด้วย แต่ในสมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยนิยมกันแล้ว เพราะปีนี้คนมาซื้อคำอวยพรแบบเขียนกันน้อยมาก

ทั้งนี้เทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช ประจำปี 2558. จะจัดขึ้นระหว่างวันที่19-20ก.พ.ที่บริเวณซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เยาวราช  โดยภายในงานก็จะมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมไทยและจีน การจัดตกแต่งบริเวณงานด้วยโคมมงคล และมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารของชุมชนย่านเยาวราช สำหรับคุณผู้ชมที่สนใจก็สามารถเดินทางมาได้ที่ย่านเยาวราชแห่งนี้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24