สหรัฐใช้เงินโจมตีทางอากาศไอเอสในอิรัก-ซีเรียไปแล้วกว่าหมื่นล้านบาทด้านยูเอ็นเตือน ไอเอสกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยในอิรัก
วันนี้(22ต.ค.57)พลเรือตรีจอห์น เคอร์บี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนทาก้อน แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สหรัฐกำลังตรวจสอบข่าวที่ว่า อาวุธที่สหรัฐทิ้งลงทางเครื่องบินให้แก่นักรบเคิร์ดในเมืองโคบานีของซีเรีย บางส่วนได้ตกไปอยู่ในเมืองของไอเอสจริงหรือไม่ แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐได้หย่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ลงทางเครื่องบินให้แก่นักรบเคิร์ดทั้งหมด 27 ชุด และส่วนใหญ่ถึงมือของนักรบเคิร์ด แต่มี 1 ชุดที่หลงออกนอกทาง แต่สหรัฐได้ทำลายไปแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของไอเอส
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงด้วยว่า สหรัฐเสียค่าใช้จ่ายในการโจมตีทางอากาศกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียไปแล้ว 424 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 1 หมื่น 3 พันล้านบาท นับตั้งแต่เริ่มโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมเป็นต้นมา หรือคิดเป็น 7 ล้าน 6 แสนดอลลาร์ต่อวัน หรือกว่า 240 ล้านบาทต่อวัน
นอกจากนี้ สหรัฐกำลังพิจารณาจะส่งที่ปรึกษาทางทหารไปเพิ่มในอิรัก ตามที่รัฐบาลอิรักร้องขอ โดยขณะนี้สหรัฐมีที่ปรึกษาทางทหารและเจ้าหน้าที่คุ้มกันสถานทูตสหรัฐอยู่ในอิรักประมาณ 1,400 คน
ขณะเดียวกัน สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า กลุ่มไอเอสอาจกำลังพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยาซิดี ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในอิรักที่นับถือศาสนาของตนเอง โดยไอเอสได้เริ่มโจมตีชาวยาซิดีครั้งใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา และยื่นคำขาดให้ชาวยาซิดีเปลี่ยนศาสนา ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกฆ่า ก่อนหน้านี้ ไอเอสเคยโจมตีชาวยาซิดี ซึ่งอาศัยอยู่แถบภูเขาซินจาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิรักเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวยาซิดีหลายพันคนถูกยิง ถูกฝังทั้งเป็น หรือถูกไอเอสขายไปเป็นทาส และอีกจำนวนมากต้องอพยพกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยในอิรัก
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24
Add One