เหยื่อแก๊งฉ้อโกงรถหลอกให้เช่าโผล่อีก คราวนี้เข้าร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นถูกกระบวนการเดียวกันหลอกเชิดโฉนดที่ดินไปขายฝากบ้านกับนายทุน จนครอบครัวเดือดร้อนหนักเพราะถูกนายทุนไล่ออกจากบ้านและที่ดินของตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นางนารี หอมกรุ่น อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/2 หมู่ 6 ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีถูกนางภัทราพร สอนปัญญา หรือหมอบี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.5 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ น.ส.สุรีย์ณิภา ภูริภัทร์วัฒนกุล หรือ อ๋อม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 3 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็น 2 ผู้ต้องหาคดีหลอกเช่ารถแล้วฉ้อโกงรถยนต์ผู้เสียหายหลายราย โดยหลอกนางนารี ให้นำโฉนดที่ดินไปขายฝากกับนายทุนเมื่อวันที่ 18 ก.พ.57 ที่ผ่านมา
นางนารี หอมกรุ่น ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อราว 1 ปีที่ผ่านมาตนได้ไปขอยืมเงินจากนางภัทราพร หรือหมอบี เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์ส่งเสริมสุขภาพบ้านทุ่ม หลังติดหนี้กองทุนหมู่บ้าน โดยหมอบี ได้นำเงินสดจำนวน 3 หมื่นบาทมาให้ยืม พร้อมกับออกอุบายให้ตนนำโฉนดที่ดินเลขที่ 86321 เลขที่ดิน 306 ซึ่งเป็นที่ดินและบ้านที่ตนอาศัยอยู่มัดจำไว้ หลังจากตนมีเงินก็นำไปคืนให้ภายใน 3 ปีตามข้อตกลง
ต่อมาประมาณเดือน ก.พ.2557 นางภัทราพร ได้เรียกตนไปลงชื่อในเอกสาร ซึ่งตนสนิทกับหมอบีมานานจึงไว้ใจและยอมเซ็นต์เอกสารโดยไม่ได้อ่านข้อความใดใด จนเวลาล่วงมาถึงประมาณเดือน พ.ค.57 มีคนไปถ่ายภาพที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของตน จึงเริ่มเอะใจ
ต่อมาไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินจังหวัด จึงทราบว่า นางภัทราพร นำโฉนดที่ดินของตนไปให้นางสาวสุรีย์ณิภาหรืออ๋อมขายฝากกับนายทุนเป็นเงินถึง 1.8 ล้านบาท และในที่สุดตนก็ถูกนายทุนไล่ที่ทำให้ตนและครอบครัวทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
นางนารี เล่าอีกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 3 ส.ค.57 ที่ผ่านมา ตนกับนางภัทราพรและนางสาวสุรีย์ณิภาได้ทำบันทึกข้อตกลงชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น โดยคู่กรณีได้ตกลงเรียกร้องค่าเสียหายให้นำเอาโฉนดที่ดินมาคืนให้ หรือหากเอาโฉนดที่ดินมาคืนให้ไม่ได้ ต้องชดใช้ให้นางนารีเป็นเงิน 8 แสนบาท (คนละ 4 แสนบาท)
ทั้งนี้ หากเลยกำหนดวันที่ 28 ก.ย.57 ตามที่คู่กรณีทั้งสองได้ตกลงกับนางนารีแล้วไม่สามารถทำตามข้อตกลงได้นางนารีจะเข้าแจ้งความดำเนินคดี
นางนารีก ล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงกำหนดตามที่ตกลงกันไว้ ตนไม่ได้โฉนดคืนและไม่ได้เงินชดเชย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจในวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นเพื่อให้ดำเนินคดีกับคนทั้งสองในข้อหาฉ้อโกง แต่คดียังไม่คืบหน้าถึงไหน ล่าสุดได้อ่านข่าวพบว่าทั้งนางภัทราพรและนางสาวสุรีย์ณิภาถูกแจ้งข้อหาหลอกลวงฉ้อโกงรถยนต์จากผู้เสียหายหลายรายในขอนแก่น
ตนจึงต้องเข้ามาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง เพราะต้องการให้เอาผิดบุคคลทั้งสอง อย่างน้อยอยากได้โฉนดที่ดินและบ้านคืนมา
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : ManagerOnline
Add One