มะม่วงกลายเป็นผลไม้สุดพิเศษในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมจีนเหตุเคยเป็นตัวแทนปธ.เหมาถึงขั้นทำรูปจำลองนำขึ้นแท่นบูชา
วันนี้(12ก.พ.59)“เบนจามิน รามม์”ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของบีบีซีได้เปิดเรื่องราวปรากฏการณ์ทางสังคมที่แปลกพิศดารเกิดขึ้นนั่นคือการ “บูชามะม่วง” หลังลัทธิบูชาประธานเหมา เจ๋อตุงใช้มะม่วงเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อ
ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2509 ประธานเหมาได้ปลุกระดมให้กลุ่มยุวชนแดง ลุกฮือขึ้นต่อต้านทางการที่มีแนวคิดฝ่ายขวา เพื่อเปลี่ยนโฉมหน้าของสังคมจีนและขจัดแนวคิดแบบชนชั้นกลางในสังคม แต่อีก 2 ปีถัดมาจีนได้ตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งวุ่นวาย เนื่องจากเรดการ์ดกลุ่มต่างๆได้ต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเอง ส่งผลให้ประธานเหมาต้องส่งคนงาน 30,000 คนไประงับเหตุที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ในกรุงปักกิ่ง แต่นักศึกษากลับทำร้ายคนงานเหล่านี้จนเสียชีวิตไป 5 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 700 คน กว่าที่นักศึกษาจะยอมแพ้ในที่สุด
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประธานเหมาได้ส่งมะม่วงประมาณ 40 ลูกที่ได้รับเป็นของขวัญจากรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน ซึ่งถือเป็นผลไม้จากต่างแดนที่หาทานยากในสมัยนั้น ไปแสดงความขอบคุณคนงานกลุ่มนี้ และได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของลัทธิบูชามะม่วงในจีน
เนื่องจากคนงานเหล่านี้มองว่า มะม่วงเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ประธานเหมามีต่อคนงาน ทั้งยังถูกนำไปเปรียบกับเห็ดหลินจือที่ชาวจีนเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ และลูกท้อซึ่งเป็นตัวแทนของการมีอายุยืนยาว โดยคนงานมองว่า ของขวัญดังกล่าวแสดงถึงความไม่เห็นแก่ตัวของประธานเหมาที่ยอมเสียสละการมีอายุยืนยาวให้แก่เหล่าคนงาน
มีรายงานว่าลัทธิบูชามันได้นำมันไปฉีดน้ำยาฟอร์มาลีน จากนั้นได้หล่อมะม่วงจำลองจากขี้ผึ้งแล้วนำไปแจกจ่ายให้คนงาน ซึ่งต่างให้ความเคารพมะม่วง เพราะมองว่าเปรียบเสมือนตัวแทนของประธานเหมา บางแห่งได้นำมะม่วงไปตั้งที่แท่นบูชาไว้เคารพสักการะ
นอกจากนี้ รูปมะม่วงยังปรากฏอยู่ในสิ่งของเครื่องใช้ประจำวันต่าง ๆของชาวจีนในยุคนั้น เช่น ผ้าปูที่นอน โต๊ะเครื่องแป้ง ถาด สบู่กลิ่นมะม่วง และบุหรี่รสมะม่วง เป็นต้น แต่กระแสบูชามะม่วงดำเนินไปเพียง 18 เดือนก็เสื่อมความนิยมลงในที่สุด
.
ขอบคุณที่มาและภาพประกอบจาก : TNN24
Add One