วานนี้ (12ก.พ.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ผ่านมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) นางลีน่า จังจรรจา อายุ 55 ปี นักธุรกิจเครื่องสำอาง และอดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีถูกชายฉกรรจ์บุกเดี่ยวตบหน้าขณะกำลังเปิดประตูเหล็กหน้าบ้านย่านประตูน้ำ เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.วสุพล บาลี รองผู้บังคับการกองแผนงานกิจการพิเศษ รองผบก.กองแผนงานกิจการพิเศษ ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการเป็นผู้รับเรื่อง

นางลีน่า กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังเปิดประตูเหล็กเพื่อออกจากบ้านพักไปทำรายการที่ตลาดน้ำวิถีไทยคลองผดุงกรุงเกษม มีชายฉกรรจ์ รูปร่างสันทัดสูงประมาณ 165 ซม. ปรี่เข้ามาตบหน้าตน 1 ครั้ง ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นรู้สึกมึนงง จึงไม่สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้ และไม่ได้ติดตามคนร้ายเพราะเกรงไม่ปลอดภัย แต่ที่บ้านมีกล้องวงจรปิด แต่ตนรีบมาขอความเป็นธรรมก่อน เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจ จึงไม่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาด้วย อยากให้ ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรมเร่งรัดให้ตำรวจสืบสวนติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากที่ตนได้ทำคลิปเผยแพร่กรณีที่ตำรวจ สน.พญาไท ปล่อยปละเลยให้รถทัวร์ปรับอากาศรับส่งนักท่องเที่ยวจอดกีดขวางการจราจรในย่านประตูน้ำ จึงอาจจะมีคนที่เสียผลประโยชน์ไม่พอใจส่งคนมาทำร้าย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง หรือความขัดแย้งกับใคร ส่วนที่ไม่ไปแจ้งความที่ สน.พญาไท เพราะมองว่า ไม่มีประโยชน์ ที่ผ่านมาตนเคยถูกมือดีบุกสาดน้ำปลาร้ามาแล้ว ซึ่งขณะนั้นตำรวจก็ไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้

นางลีน่า กล่าวต่อว่า อยากร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบ.ตร.ให้เร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก เปิดประตูบ้านออกมาก็โดนตบเลย ขณะเดียวกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการกระทำที่ทุกอาจเกิดขึ้นกลางเมือง ย่านธุรกิจ ที่สำคัญห่างกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพียงนิดเดียว หากตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ภายใน 16.30 น.วันนี้ ตนจะไปร้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพราะมองว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่มีการประกาศกฎอัยการศึกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.วสุพล กล่าวว่า เบื้องต้นจะประสาน พนักงานสอบสวน สน.พญาไท มารับแจ้งความ พร้อมส่งตัว นางลีน่า ตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่ รพ.ตำรวจขณะเดียวกันจะนำเรื่องส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป